กำหนดวันเดินทาง
โปรแกรมเดินทาง
keyboard_arrow_right
วันที่ 1 :: |
หาดใหญ่-สะเดา-บัตเตอร์เวิร์ธ-ปีนัง-สะพานปีนัง-ย่านสตรีทอาร์ท-ป้อมปืน-วัดเขาเต่า-ปีนังฮิลล์ |
เช้า
|
อิสระอาหารเช้า
นำท่านเดินทางสู่ด่านสะเดา เพื่อผ่านพิธีการออกเมือง (ต้องใช้หนังสือเดินทาง ที่มีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และมีหน้าว่างสำหรับประทับตรา อย่างน้อย 2 หน้าเต็ม)
- ข้ามด่านฝั่งประเทศไทย สู่ด่านบูกิตคายูอีตั้ม จังโหลน ประเทศมาเลย์เซีย แล้วเดินทางสู่มา เลเซีย ใช้ถนนไฮเวย์สู่บัตเตอร์เวิร์ธ ข้ามสะพานยาว 13 กม.มูลค่าการก่อสร้างสพพานสูงถึง 9 พันล้านบาท เข้าสู่เกาะปีนัง รัฐปีนัง (ข้อมูล วิกิพีเดียhttps://th.wikipedia.org/wiki/รัฐปีนัง) รัฐปีนัง หรือ ปูเลาปีนังเป็น 1 ใน 13 รัฐที่ประกอบขึ้นเป็นสหพันธรัฐมาเลเซียเดิมชาวมาเลย์รุ่นแรกเรียกว่าปูเลาวาซาตูหรือเกาะเดี่ยว ต่อมาพบในแผนที่เดินเรือ เรียกว่าปูเลาปีนังหรือเกาะหมาก รัฐปีนังประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วน ได้แก่เกาะปีนังซึ่งตั้งอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศ และเป็นที่ตั้งของจอร์จทาวน์(George Town) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ และเซเบอรังเปอไร (สมารังไพร) ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งมีสมญาว่า "ไข่มุกแห่งบูรพาทิศ" {นำท่านชมย่านสตรีทอาร์ท ที่กำลังโด่งดัง กับการเดินถ่ายรูป ตามผนังเก่าๆ พร้อมซื้อของที่ระลึก ซึ่งวางขายในบ้านสใตล์ ชิโนโปตุกีส ตลอด2ข้างทาง จากนั้นนำท่านเที่ยวชมหมู่ชาวประมงริมทะเล สัมผัสอารยะธรรมเก่าๆ ได้ที่นี่
{ จากนั้นนำท่านสู่จุดกำเนิดเกาะปีนัง ริมทะเลบริเวณป้อมปืน ฟอร์ด คอลเวอร์ลิส นำชมป้อมปราการคอร์นเวลลิส(Fort Cornwallis)ซึ่งตั้งชื่อตาม ชาร์ล คอร์นเวลลิส ผู้สำเร็จราชการของอังกฤษประจำเมืองเบงกอลในช่วงปลายทศวรรษที่ 1700 ถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติ ศาสตร์และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองจอร์จทาวน์กำแพงป้อมสูงประมาณ 10 ฟุต เป็นรูปดาวมีโครงสร้างที่เป็นสถาปัตยกรรมดั้งเดิมที่อายุมากกว่า 100 ปี ได้แก่ โบสถ์ คุกขังนักโทษ คลังเก็บดินปืนประภาคารซึ่งครั้งหนึ่งใช้ส่งสัญญาณแก่เรือที่เข้ามาเทียบท่า เสาธงเก่าและปืนใหญ่สำริด หนึ่งในปืนใหญ่เหล่านี้มีปืนใหญ่ชื่อ "ศรีรัมไบ"สร้างขึ้นโดยชาวดัตช์ในปี ค.ศ. 1603 ที่น่าสนใจก็คือชาวท้องถิ่นบางคนเชื่อว่าปืนใหญ่ศรีรัมไบให้คุณต่อหญิงผู้ที่ต้องการมีบุตร ถ่ายรูปศาลาว่าการเมือง(CITY HALL) และศาลากลางเมือง(TOWN HALL) มีการออกแบบสร้างอย่างสวยงามตามแบบสถาปัตยกรรมของอังกฤษ ในยุคนั้นๆ
|
เที่ยง
|
รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร(อาหารจีน เซทเป็นโต๊ะ)
{ นำท่านสู่ย่านเมืองเก่าไชน่าทาวน์ ลิตเติ้ลอินเดีย
{ ผ่านชมหอนาฬิกาสูง 60 ฟุต สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง Queen Victoria
{ นำชมวัดพุทธที่สำคัญวัดเก็กลกสี่ (KekLok Si Templeหรือ Temple of Supreme Bliss) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1893 ตามคำสั่งของเจ้าอาวาสวัดเจ้าแม่กวนอิมที่ถนนพิตต์สตรีท ท่านได้พระราชทานแผ่นจารึกและ พระไตรปิฎกจำนวน 70,000 ฉบับแก่วัด เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งใน วัดดังของปีนังตั้งอยู่ที่อีร์อิตัม แต่เดิมเชื่อกันว่าเนินเขาในบริเวณนี้ (ชื่อ "ฮีซาน" หรือเนินเขานกกระเรียน) มีฮวงจุ้ยดีเหมาะกับการสร้างวัด วัดนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น หอสวดมนต์ เจดีย์ หอระฆัง สระเต่า และสิ่ง ที่โดดเด่นที่สุดคือเจดีย์สมเด็จพระรามหก (เจดีย์พระพุทธเจ้า 10,000 พระองค์) สร้างในปี ค.ศ. 1930 ตกแต่งด้วยพระพุทธรูปสำริดและพระพุทธรูปศิลาขาวทั้งหมด 10,000 องค์ เป็นความผสมผสานระหว่างนิกาย มหายานและหินยาน ฐานเจดีย์สร้างแบบจีน ตัวเจดีย์สร้างแบบไทย และยอดเจดีย์สร้างแบบพม่า และยังมีรูปหล่อเจ้าแม่กวนอิมสำริดสูง 30.2 เมตร
{ การเดินทางไปเยือน ปีนังฮิลล์(Penang Hill) หรือบูกิต เบนดารา (Bukit Bemdara) โดยรถรางไฟฟ้า ปีนังฮิลล์อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 830 เมตรเป็นจุดสูงสุดของเกาะปีนังและจุดชมวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองรวมไปถึงเกาะปีนังแบบแบบกว้างไกลสุดสายตาโดยรถรางไฟฟ้าที่ขึ้นสู่ปีนัง ฮิลล์นั้นถือว่าเป็นรถรางสายแรกในเอเชีย สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1923 โดยบริษัทรถรางสัญชาติสวิสต้องเปลี่ยนรถ 1 ครั้งกลางทางใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้น 30 นาที ระหว่างทางท่านจะเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ สลับกับพืชพันธุ์ต่างๆที่ขึ้นอยู่เต็มตลอดเส้นทาง (รวมค่ารถราง)
|
19.00 น.
|
อาหารเย็นที่ศูนย์อาหาร ติดชายทะเล ชื่อ Northam Beach Cafe หรือถนนคนเดินย่านเกอร์นี่ มีอาหารมากมาย (มื้อนี้ อิสระ ตามอัธยาศัย)
หลังอาหารนำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก กลางเกาะปีนัง Nei+, Royal Hotel หรือเทียบเท่า 3 ดาว
|
keyboard_arrow_right
วันที่ 2 :: |
ปีนัง-วัดไทยไชยมังคลาราม-วัดพม่าธรรมมิดาราม-บัตเตอร์เวอร์ธ-เบตง ใต้สุดสยาม |
07.30 น.
|
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
-นำท่านชม “วัดไชยมังคลาราม” นมัสการพระพุทธไสยาสน์ “พุทธชัยมงคล” นับเป็นวัดไทยที่เก่าแก่ที่สุดในปีนังและมีพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวที่สุดในมาเลเซีย เป็นวัดไทยสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2388 สร้างโดยบริษัทอินเดียตะวันออก (East India Company) ศิลปะของวัดไชยมังคลารามนั้นเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะไทย พม่า และจีนเข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้มีสีสันสะดุดตา ทำให้เกาะปีนังมีวัดไทยที่เป็นศูนย์รวมของชาวพุทธ ซึ่งมีพระนอนที่สวยที่สุดในมาเลเซียประดิษฐานอยู่ และพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ได้เสด็จมาเบิกเนตรเมื่อปี 2505 และได้พระราชทานชื่อว่า "พระพุทธชัยมงคล"
- ชมวัดพม่าธรรมมิดาราม อยู่ตรงข้ามกับวัดไทย ชมศิลปะอ่อนช้อยแบบพม่า ชมพระพุทธรูปปางต่างๆมากมายแกะสลักด้วยหินอ่อนทั้งสิ้น
-จากนั้นนำท่านเข้าร้านขนมเปี๊ยะ สินค้าโอทอปเกาะปีนัง ที่นี่มีสินค้าที่ไม่ควรพลาด 2 รายการคือ บ๊ะกุ๊ตแต๋สูตรดั้งเดิม ที่อร่อยที่สุดในมาเลเซีย และ น้ำมันนวดของแท้ แก้อาการปวดเมื่อย ได้ผล 100% นักท่องเที่ยวไทยการันตีทุกชุด
|
11.30 น.
|
นำท่านเดินทางลงเรือเฟอร์รี่ ออกจากเกาะปีนัง
|
เที่ยง
|
เดินทางเข้ารับประทานทานอาหารที่ร้านอาหารไทย ฝั่งเมืองบัตเตอร์เวอร์ธ
|
บ่าย
|
หลังอาหารนำท่านเดินสู่อำเภอเบตง สู่ด่านตรวจดำเนินการผ่านแดนที่ด่านด่านเบตง บ้านกา แป๊ะฮูลู อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เข้าสู่เมืองเบตง **อิสระถ่ายรูปป้ายใต้สุดสยาม
7ที่สุดเบตง
1.พระพุทธรูปทองสัมฤทธ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พระพุทธธรรมกายมงคลประยูรเกศานนท์สุพิธาน ขนาดหน้าตักกว้าง 9.99 เมตร สูง 14.29 เมตร น้ำหนักประมาณ 40 ตัน ตั้งอยู่ที่วัดพุทธาธิวาส
2. ตึกที่สูงที่สุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้โรงแรมแกรนด์แมนดาริน เบตง มีความสูง 25 ชั้น
3. ต้นไม้ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ต้นสมพงษ์ตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10
4. ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นรูปกลมทรงกระบอกแยกได้เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนฐานและส่วนตัวตู้ส่วนสูงของตัวตู้ คือ 2.9 เมตร นับจากฐานขึ้นไปรวมความสูงของตู้ด้วย วัดได้ 3.2 เมตร
5. เสาธงชาติไทยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่กองบังคับการกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 445 มีความสูงรวม 65 เมตร ธงยาว 18 เมตร กว้าง 9.2 เมตร
6. อุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของประเทศไทย อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ตั้งอยู่ ณ บริเวณถนนอมรฤทธิ์ตัดกับถนนภักดีดำรงก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีระยะทางยาว 273 เมตร กว้าง 9 เมตร สูง 7 เมตร ผิวการจราจรคู่กว้าง 7 เมตร
7. สวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ ตั้งอยู่ในบริเวณหมู่บ้านปิยะมิตร 2 เป็นโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
-นำท่านเข้าเช็ดอินโรงแรมแกรนด์แมนดาริน หรือ รีสอร์ทภูผาแอนด์ศิลาโฮม
|
18.30 น.
|
รับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารต้าเหยิน อาหารท้องถิ่น เมนูขึ้นชื่อเช่น ไก่สับ เคาหยกนึ่งเผือก ลูกชิ้นแคระ กบภูเขา ถั่วเจี่ยนสูตรเบตง เต้าหู้ทรงเครื่อง ปลาจีนเบตง หมี่เหลืองเบตงทรงเครื่อง เต้าหู้ยูนนาน
นำท่านเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
|
keyboard_arrow_right
วันที่ 3 :: |
เบตง-ทะเลหมอก-วัดพุทธาธิวาส-วุ้นดำ กม.4-สวนหมื่นบุปผา-อุโมงค์ปิยะมิตร 2-บ่อน้ำร้อนเบตง |
04.30
|
นำท่านเดินทางจากที่พักสู่ทะเลหมอก ไอยเยอร์เวง ที่ยอดเขาไมโครเวฟ ห่างจากเมืองเบตง ประมาณ 40 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2000 ฟุต ซึ่งปัจจุบันกำลังเริ่มก่อสร้างสกายวอล์คลอยฟ้าแห่งเดียวในประเทศไทย มีจุดชมทะเลหมอกถึง 3 จุด
|
07.30
|
เข้าถ่ายรูป สะพานแตปูซู สะพานแขวนข้ามแม่น้ำอัยเยอร์เวง ที่กม 36 ที่บริเวณบ้านของกำนันแหนบทอง 8 สมัยคนเดียวของประเทศไทย
สมควรแก่เวลานำท่าน เดินทางกลับเข้าเมืองรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
-นำชมวัดพุทธาธิวาส ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเบตงมีบรรยากาศร่มรื่นทัศนียภาพงดงามประกอบด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นเป็นสง่า ชมพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ สถาปัตย กรรมศิลปะศรีวิชัยประยุกต์ มีขนาดกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร โดยองค์เจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขาภายในพระมหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระมหาเจดีย์สร้างขึ้นเพื่อความเป็นพระราชกุศล และเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสเฉลิมพระชนม์พรรษาครบ 5 รอบ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นำชมและนมัสการพระพุทธธรรมกายมงคลประยูรเกศานนท์สุพิธาน เป็นองค์พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ มีหน้าตักกว้าง 9.99 ม. สูง 14.29 ม. และมีน้ำหนักประมาณ 40 ตันซึ่งชาวอำเภอเบตงได้ร่วมกันบริจาคทรัพย์เพื่อสร้างขึ้นเป็นปูชนียสถานที่สำคัญ นำท่านเข้าบูชาพระสารีริกธาตุบนยอดเจดีย์เริ่มทัวร์เบตง เดินทางออกนอกเมืองใช้เส้นทางบ่อน้ำร้อน ผ่านชมเสาธงชาติไทยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่กองบังคับการกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 445 มีความสูงรวม 65 เมตร ธงยาว 18 เมตร กว้าง 9.2 เมตร
-แล้วเดินทางไปบ้าน กม.4 ซึ่งเป็นร้านวุ้นดำแท้ที่ขึ้นชื่อของอำเภอเบตง ส่วนผสมคือการต้มหญ้าวุ้นดำแท้ๆที่นำมาจากประเทศจีน จะได้วุ้นที่มีสีดำขลับ เหนียวนุ่ม รับประทานกับน้ำเชื่อมแล้วเติมน้ำแข็ง วุ้นดำ (เฉาก๊วย) มีสรรพคุณแก้ร้อนใน * ชวนชิมวุ้นดำ กม. 4 แน่นอนคุณจะได้ชิม 1-2 ถ้วยตามชอบใจ
"เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยามที่เบตง"เดินทางไปชมสวนหมื่นบุปผา สวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของหมู่บ้านปิยะมิตร 2 ระหว่างหุบเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800 เมตร มีสภาพอากาศที่หนาวเย็น เดิมเป็นพื้นที่ของผู้ที่เข้าร่วมพัฒนาชาติไทยในอดีตได้ทดลองปลูกดอกไม้เมืองหนาว ภายใต้โครงการในพระราชดำหริ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่นี่มีดอกไม้เมืองหนาวมากมาย เช่น คาร์เนชั่น ลิลลี่ เบญจมาศ กุหลาบแอสเตอร์ พีค๊อก เยอร์บีร่า แกลดิโอลัส ฯลฯ
-เดินทางไปชมอุโมงค์ปิยะมิตร อดีตเป็นฐานปฏิบัติการของโจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายาใช้เป็นที่หลบภัยทางอากาศและ สะสม เสบียง สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2520 มีความยาวอุโมงค์ ประมาณ 1 กิโลเมตร กว้างประมาณ 5-6 ฟุต กำลังขุดประมาณ 50 คน ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน มีทาง เข้า-ออก 9 ทาง แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 6 ทาง ชมที่นอนที่เป็นเตียง ดินเหนียว อุปกรณ์การสู้รบ อุปกรณ์การเดินป่า ห้องบัญชาการรบที่สามารถจุคนได้ 200 คน มีเตากระทะหุงต้ม มีลานฝึกกำลังพล ยังมีนิทรรศการวิถีชีวิตการใช้ชีวิตในป่าที่น่าตื่นใจ
|
เที่ยง
|
รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านครัวลำธาร อาหารพื้นเมืองของอดีต จคม.เมนูเช่น ผักน้ำ(เก็บจากลำธารมาผัดสดๆ) ปลาจีนนึ่ง กบภูเขา ไก่สับ ผักกูด ขาหมูซอสถั่วเหลือง (อาหารขึ้นอยู่กับวัตถุดิบของแต่ละวัน)
{ นำท่านสู่บ่อน้ำร้อน ชมบ่อน้ำร้อนเบตง เป็นบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านจาเราะปะไร ความร้อนของน้ำสามารถต้มไข่ให้สุกได้ภายในเวลา 7 นาที ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาอาบน้ำแร่เพราะเชื่อกันว่าทำให้สุขภาพดี บรรเทาอาการปวดเมื่อย และรักษาโรคผิวหนังได้ พักผ่อนแช่เท้าลงในบ่อน้ำแร่ตามอัธยาศัย
สมควรแก่เวลา เดินทางเข้าเมืองถ่ายรูปป้าย O.K เบตง, นำท่าน City Tour ในเมืองเบตงทั้งหมด, ถ่ายรูปคู่กับหอนาฬิกา ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปีพศ 2478, นกนางแอ่น หนีหนาวจากไซบีเรีย เกาะสายไฟมาก มาย, ถ่ายรูปคู่กับตู้ไปรษณีย์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างในปี 2467 โดยนายไปรษณีย์คนแรกของอำเภอเบตง, นำท่านขับรถลอดอุโมงค์รถยนต์แห่งแรกของประเทศไทย, นำท่านเที่ยวสนามกีฬาสูงที่สุดในประเทศไทยบนส่วนสถานะบนยอดเขา
- สี่แยกหอนาฬิกา สัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองเบตง ความโดดเด่น อยู่ที่โครงสร้างเป็น "เหรา" สัตว์หิมพานต์ ที่ มีลักษณะครึ่งนาค ครึ่งมังกร ยามเย็นจะเห็นฝูงนกนางแอ่นนับหมื่นตัวมาเกาะอยู่รอบ ๆ สายไฟบริเวณหอ นาฬิกาจนกลายมาเป็นสัญลักษณ์คู่หอนาฬิกา
- ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลก ใบแรกตั้งอยู่ที่สี่แยกหอนาฬิกา สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2467 เส้นรอบ วงตัวตู้ 140 ซ.ม. ความสูง 290 ซ.ม.+ฐาน 30 ซ.ม. บนตู้บรรจุลำโพง กระจายเสียงส่งข่าวของทางราชการ
- อุโมงค์เบตงมงคงฤทธิ์ เปิดใช้เมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2544 เป็นอุโมงค์ลอดภูเขาแห่งแรกในประเทศไทย ใช้งบรัฐบาลก่อสร้างในวงเงิน 182,000,000 บาท
-ทะเบียนรถเบตง นั่งรถผ่านไปผ่านมาท่านจะแปลกใจจนคุ้นตาว่าเบตงเป็นอำเภอไม่ใช่จังหวัด ทำไมจึงมีทะเบียนรถเป็นของอำเภอตนเอง นั่นเพราะการเดินทางยะลา-เบตงยากลำบากเส้น ทางคดเคี้ยว อีกทั้งเบตงมีความเจริญพอควรกรมการขนส่งทางบกจึงอนุญาตให้มีการจดทะเบียนรถที่เบตงโดยที่ไม่ต้องไปที่ยะลา ประกาศโดยมหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2469
|
19.00 น.
|
นำท่านรับประทานอาหารเย็น **ร้านคุณชาย ตำนานไก่เบตงของแท้แน่นอน
-นำท่านเข้าเช็ดอินโรงแรมแกรนด์แมนดาริน หรือ รีสอร์ทภูผาแอนด์ศิลาโฮม
|
keyboard_arrow_right
วันที่ 4 :: |
เบตง-วัดจันทร์ธาดาประชาราม |
06.00 น.
|
รับประทานอาหารเช้า สัมผัสวัฒนธรรมอาหารการกินยามเช้าตามแบบฉบับชาวเบตง นำท่านไปรับประทานอาหารเช้านอกโรงแรมแบบติ๋มซำที่ร้านอาหารพื้นเมือง ซึ่งเปรียบเสมือนสภากาแฟ ทุกเช้าขาประจำหลากวัยจะนัดมาทานของเช้า พูดคุยถกสารพันปัญหา สังสรรค์เฮฮาทักทายปราศรัย หลากหลายรสชาดที่คุณจะได้สัมผัส อารมณ์แบบนี้คุณจะประทับใจมากกว่าชิมบ๊ะกู๊ดเต๋ อร่อยกว่าทานขนมจีบซาลาเปาฮักเก๋า ถูกใจมากกว่าทานเต้าหู้ขาวนึ่ง และจิ๊ฉ่องฝัน(ก๋วยเตี๋ยวสูตรเฉพาะเบตง) ได้ใจมากยิ่งกว่าซดน้ำชากาแฟโบราณเบตง (มื้อนี้อิ่มอร่อยไม่อั้น)
|
08.00 น.
|
อิสระเดินชมตลาดเช้าเบตง ซึ่งจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ พืชผัก ผลไม้ ขนมพื้นเมือง เลือกซื้อของฝากขึ้นชื่อ อาทิ เส้นหมี่เหลืองเบตง ซินชิงหลินจือ ผงกาแฟเบตง สมุน ไพรต่างๆ ฯลฯ
อำลาเบตงสู่หาดใหญ่ ระหว่างทางแวะสักการะหลวงปู่ทวด ที่วัดจันทร์ธาดาประชาราม กม.7 เข้ากราบบูชารูปหล่อหลวงปู่ทวด กราบไหว้ร่างพ่อท่านคล้ายในวิหาร
จากนั้นเดินทางต่อ ถึงตัวเมืองจังหวัดยะลา
|
เที่ยง
|
รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านกอไผ่ เมนูอาหารพื้นเมืองภาคใต้
นำท่านเดินทางสู่วัดช้างให้ เข้าสักการะหลวงปู่ทวดพร้อมบูชาวัตถุมงคล
|
16.00 น.
|
(เวลาประมาณ)เดินทางถึงหาดใหญ่ {อิสระช้อบปิ้งที่ตลาดกิมหยง ซึ่งมีสินค้านานาชนิดให้เลือกซื้อเป็นของฝากเช่น อาหารแห้งชนิดต่างๆ ลูกอม บ๊วย ช็อกโกแลต ขนมขบเคี้ยวจากประเทศเพื่อนบ้านน้ำหอม เครื่องสำอางเสื้อผ้า นาฬิกา กระเป๋า รองเท้า แว่นตา ไปจนถึงผลไม้หลากหลายชนิด โดยส่วนมากเป็นสินค้านำเข้าที่ไม่ผ่านการเสียภาษีจึงมีราคาถูกกว่าทั่วไปแต่ระวังของปลอม!
สมควรแก่เวลา เดินทางสู่สนามบินหาดใหญ่
|
|
เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพฯ
|
อัตราค่าบริการ และเที่ยวบินการเดินทาง
ราคารวม ค่ารถตู้รุ่นใหม่ ค่าด่าน ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าบัตรผ่านประตู
รวมประกันอุบัติเหตุวงเงิน 1 ล้านบาท(เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
**ราคาไม่รวมตั๋วเครื่องบิน
หมายเหตุไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน / รายการอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / ครบ 4 ท่านออกเดินทาง ไกด์เป็นคนขับไทยรับที่สนามบินหาดใหญ่ / ค่าบริการยังไม่รวมค่าทิปไกด์คนรถ ท่านละ 200 บาทต่อทริป
ค่าบริการ ลูกค้า 4-5 คน / 1 รถตู้ ค่าทัวร์ท่านละ 11,899 บาท
ลูกค้า 6-7 คน / 1 รถตู้ ค่าทัวร์ท่านละ 10,899 บาท
ลูกค้า 8-10 คน / 1 รถตู้ ค่าทัวร์ท่านละ 9,899 บาท
ห้องเดี่ยวเพิ่ม 4,000 บาท(ทัวร์ราคาพิเศษ ไม่มีราคาเด็ก)
อัตรานี้รวม ค่าที่พัก 2 ท่านต่อ 1 ห้องคู่ / ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุในรายการ / ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ / ค่าผ่านด่านมาเลเซีย
อัตรานี้ไม่รวม ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน / ค่าภาษีสนามบิน / ไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่มนอกรายการ เป็นต้น / ค่าทำเอกสารเดินทาง/ ค่าวีซ่า (หนังสือเดินทางไทยไม่ต้องทำวีซ่า แต่ต้องมีอายุยังใช้ได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และยังเหลือหน้าว่าสำหรับประทับตราเข้า-ออกเมืองอีกอย่างน้อย 2 หน้าเต็ม) / ค่าน้ำหนักที่เกินพิกัด / ค่าทิปไกด์คนรถ 200 บาทต่อคน ต่อทริป
หมายเหตุ บริษัทฯมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงหรือสับเปลี่ยนรายการได้ตามความเหมาะสม / บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 6ท่าน / ขอสงวนสิทธิ์ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงราคาโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าในกรณีที่มีการขึ้นลงของเงินตราต่างประเทศ/ การไม่รับประทานอาหารบางมื้อ ไม่เที่ยวบางรายการ ไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะการชำระค่าทัวร์ เป็นไปในลักษณะเหมาจ่าย / บริษัทได้ทำประกันอุบัติเหตุให้กับลูกค้าในวงเงิน 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์) / ค่าบริการไม่รวมภาษี 7 % และ ภาษีหัก ณ.ที่จ่าย 3%
สำรองที่นั่ง มัดจำท่านละ 5,000 บาทพร้อมแจ้งชื่อตามหนังสือเดินทาง *ส่วนที่เหลือ ชำระทั้งหมดก่อนการเดินทาง 15วัน
เงื่อนไข
เงื่อนไขการยกเลิก ออกตั๋วแล้วยกเลิกการเดินทางไม่ว่ากรณีใดๆ 15 วันขึ้นไป - เก็บค่าตั๋วเครื่องบินรวมค่าบริการ 5,000 บาท / ยกเลิกก่อนการเดินทาง 7-14 วัน- เก็บค่าตั๋ว+ค่าใช้จ่าย 8,000 บาท / ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-6 วัน - เก็บค่าบริการทั้งหมด 100 %
เงื่อนไขการยกเลิก-เดินทางช่วงวันหยุดหรือเทศกาล ออกตั๋วแล้วยกเลิกการเดินทางไม่ว่ากรณีใดๆ15 วันขึ้นไป - / ยกเลิกก่อนการเดินทาง 7-14 วัน- เก็บค่าใช้จ่าย 10,000 บาท / ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-6 วัน - เก็บค่าบริการทั้งหมด 100 %
เงื่อนไขและความรับผิดชอบ
บริษัทเป็นเพียงตัวแทนการท่องเที่ยว สายการบิน และ ตัวแทนการท่องเที่ยวในต่างประเทศ ซึ่งไม่อาจรับผิดชอบ
-
ต่อความเสียหายต่างๆ ที่อยู่เหนือการควบคุมของเจ้าหน้าที่บริษัทฯ อาทิ การนัดหยุดงาน การจลาจล เปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาในตารางบิน ภัยธรรมชาติ ฯลฯ หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้น ทั้งทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ ฯลฯ
-
ต่อการตอบปฏิเสธการเข้าและออกเมืองของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าหรือออกเมือง อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฏหมาย หรือเอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง หรือการถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
หมายเหตุ